Australia's Highest Rated Food Intolerance Test

วิตามินดีและวิตามินดี3 แตกต่างกันอย่างไร

 

วิตามินดีคืออะไร?

วิตามินดีเป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมันซึ่งมีบทบาทสำคัญในร่างกายหลายประการ จำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสอย่างเหมาะสม ซึ่งจำเป็นสำหรับกระดูกและฟันที่แข็งแรง วิตามินดียังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันและอาจมีบทบาทในการป้องกันโรคบางชนิด พบได้ในอาหารบางชนิด แต่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้เมื่อผิวหนังโดนแสงแดด

 

วิตามินดีและวิตามินดี3 แตกต่างกันอย่างไร?

วิตามินดีเป็นคำทั่วไปที่ใช้อธิบายกลุ่มของเซโคสเตอรอยด์ที่ละลายได้ในไขมัน ซึ่งมีความสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส และสำหรับการบำรุงรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง วิตามินดี 3 หรือที่เรียกว่า cholecalciferol เป็นวิตามินดีรูปแบบหนึ่ง โดยร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเมื่อผิวหนังโดนแสงแดด และยังพบได้ในอาหารบางชนิดด้วย วิตามินดี 3 จะถูกแปลงเป็นรูปแบบที่ใช้งานอยู่ที่เรียกว่าแคลซิไตรออลในร่างกาย วิตามินดีอีกรูปแบบหนึ่งคือวิตามินดี 2 หรือที่เรียกว่า ergocalciferol วิตามินดี2 พบได้ในอาหารบางชนิดและยังมีเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีกด้วย ทั้งวิตามิน D2 และวิตามิน D3 สามารถแปลงเป็นแคลซิไตรออลในร่างกายได้ ดังนั้นจึงถือเป็นวิตามินดีในรูปแบบที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ

 

ความคล้ายคลึงกันระหว่างวิตามิน D2 และวิตามิน D3?

วิตามินดี2 และวิตามินดี3 เป็นวิตามินดีทั้งสองรูปแบบ ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพกระดูก ทั้งสองรูปแบบสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบออกฤทธิ์ที่เรียกว่า 1,25-dihydroxyvitamin D ซึ่งช่วยควบคุมระดับแคลเซียมและฟอสฟอรัสของร่างกาย และจำเป็นต่อการสร้างและบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรง


ความคล้ายคลึงกันที่สำคัญระหว่างวิตามิน D2 และ D3 คือทั้งสองรูปแบบสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์ของวิตามินดีได้ จึงสามารถทำหน้าที่เหมือนกันได้ ทั้งสองรูปแบบสามารถหาได้จากแหล่งอาหาร เช่น ปลาที่มีไขมัน ไข่แดง และอาหารเสริม และจากการสัมผัสกับแสงแดด


ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างวิตามินดีทั้งสองรูปแบบคือแหล่งที่มา วิตามินดี2 พบได้ในอาหารบางชนิด เช่น เห็ดและยีสต์ และสามารถสังเคราะห์ได้จากพืช วิตามินดี 3 ผลิตได้จากผิวหนังเมื่อถูกแสงแดด และยังได้รับจากอาหารที่มาจากสัตว์ เช่น ปลา ไข่แดง และตับ

 

วิตามินดีรูปแบบไหนดีกว่ากัน?

ทั้งวิตามิน D2 และ D3 เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินดีที่สามารถแปลงเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์และทำหน้าที่เหมือนกันในร่างกาย อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าวิตามิน D3 อาจมีประสิทธิภาพในการเพิ่มและรักษาระดับวิตามินดีในเลือดได้ดีกว่าวิตามิน D2


การศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน American Journal of Clinical Nutrition พบว่าวิตามิน D3 มีประสิทธิภาพมากกว่า D2 ในการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือด (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3349454/) การศึกษาอื่นพบว่าอาหารเสริมวิตามิน D3 สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นใน 25-hydroxyvitamin D ซึ่งเป็นรูปแบบหลักของวิตามินดีในเลือด เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารเสริม D2


นักวิจัยบางคนชี้ให้เห็นว่าวิตามินดี 2 ถือว่ามีศักยภาพน้อยกว่า D3 อย่างไรก็ตาม วิตามินดีทั้งสองรูปแบบคาดว่าจะให้ผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้รับในปริมาณที่เหมาะสมและรักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี ได้รับแสงแดดเพียงพอ และรับประทานอาหารที่สมดุล


สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ เมื่อต้องได้รับวิตามินดีในปริมาณที่เหมาะสม วิธีที่ดีที่สุดคือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและปฏิบัติตามปริมาณที่แนะนำ ไม่ว่าคุณจะเลือก D2 หรือ D3 ก็ตาม


อ้างอิง

1. Vitamin D. NIH, Office of Dietary Supplements. Accessed February 15, 2021. (https://ods.od.nih.gov/factsheets/VitaminD-HealthProfessional/)

2. Nair R, Maseeh A. Vitamin D: The “sunshine” vitamin. J Pharmacol Pharmacother. 2012;3(2):118-126.

3. Vitamin D2 vs. D3: Which Should I Take for Bone Health?. Cleveland Clinic. Accessed February 15, 2021. (https://health.clevelandclinic.org/vitamin-d2-vs-d3-which-should-i-take-for-bone-health/)

4. Jetty V, Glueck CJ, Wang P, et al. Safety of 50,000-100,000 Units of Vitamin D3/Week in Vitamin D-Deficient, Hypercholesterolemic Patients with Reversible Statin Intolerance. N Am J Med Sci. 2016;8(3):156-162.

5. On call: Vitamin D2 or D3? Harvard Medical School. Accessed February 15, 2021. (https://www.health.harvard.edu/newsletter_article/vitamin-d2-or-d3)